Brand เครื่องจักร Pick and Place ในอุตสาหกรรม SMT มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกที่เน้นสายการผลิตปริมาณสูง และบริษัทรายย่อยที่เน้นเครื่องขนาดเล็กสำหรับงานต้นแบบหรือการผลิตจำนวนน้อย ข้อมูลต่อไปนี้สรุปรายชื่อแบรนด์ยอดนิยม จุดเด่นหลัก ระดับราคาคร่าว ๆ และการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เข้าใจความแตกต่างของแต่ละยี่ห้อได้อย่างรวดเร็ว
แบรนด์ต่อไปนี้เป็นผู้ผลิตเครื่อง Pick and Place รายใหญ่ที่ได้รับความนิยมและถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่:
จุดเด่น: มีผลิตภัณฑ์ครบวงจรในงาน SMT ตั้งแต่เครื่องพิมพ์บัดกรีไปจนถึงเครื่องวางชิ้นส่วน โดยเฉพาะเครื่อง Pick and Place ของ Yamaha ขึ้นชื่อว่ามีความน่าเชื่อถือสูงและรองรับการผลิตหลากหลายรูปแบบ (high mix, high volume) ทั้งยังมีรุ่นให้เลือกหลากหลายตามงบประมาณ “Wide Range” ของผลิตภัณฑ์และราคาที่จับต้องได้ทำให้ Yamaha มีตัวเลือกตอบโจทย์ทุกระดับความต้องการ
ความเร็ว/ความแม่นยำ: รุ่นระดับสูงของ Yamaha (เช่น YSM/YRM series) มีความเร็วในการวางชิ้นสูงสุดประมาณ ~90,000 CPH (ชิ้นส่วนต่อชั่วโมง) และความแม่นยำประมาณ ±0.035 มม. (35 ไมครอน)
ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากโดยไม่ลดทอนความแม่นยำการรองรับชิ้นส่วน: หัวจับแบบหลายหัว (multi-nozzle) รองรับตั้งแต่ชิ้นส่วนจิ๋ว 0201 (0.25×0.125 มม.) ไปจนถึงชิ้นส่วนขนาดใหญ่ เช่น คอนเน็กเตอร์หรือ BGA ได้อย่างยืดหยุ่น
การซ่อมบำรุง: ระบบเครื่องกลและซอฟต์แวร์ของ Yamaha ออกแบบให้ผู้ใช้ปรับตั้งค่าและบำรุงรักษาได้ง่าย อินเทอร์เฟซใช้งานง่ายช่วยลดเวลาในการตั้งโปรแกรมงานใหม่
ระดับราคา: ปานกลางถึงสูง (รุ่นมาตรฐานราคาอยู่ในหลักล้านบาท แต่ยังถูกกว่าแบรนด์ไฮเอนด์บางราย) ถือว่า คุ้มค่า เมื่อเทียบประสิทธิภาพที่ได้รับ
เหมาะกับงาน: สายการผลิตขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการทั้งความเร็วและความยืดหยุ่น และยังเหมาะกับโรงงานที่ต้องการโซลูชันครบวงจรทั้งไลน์จากผู้ผลิตรายเดียว (Yamaha มีทั้งเครื่องวางชิ้นส่วนและระบบตรวจสอบในไลน์เดียวกัน)
จุดเด่น: Juki เป็นผู้ผลิตที่มีประสบการณ์ยาวนาน เดิมมีพื้นฐานจากจักรเย็บผ้า ทำให้เครื่องมีความทนทานทางกลที่ดี ชื่อเสียงของ Juki โดดเด่นด้านความ เรียบง่ายและเสถียร ของเครื่อง — เครื่องทำงานต่อเนื่องได้อย่างมั่นใจและซ่อมบำรุงง่าย นอกจากนี้ Juki ยังขึ้นชื่อเรื่อง ความคุ้มค่า (price-performance สูง) ทำให้ได้รับความนิยมทั้งในโรงงานเอเชียและทั่วโลก
ความเร็ว/ความแม่นยำ: รุ่นเรือธงปัจจุบันอย่าง Juki RX-8 มีอัตราการวางชิ้นสูงสุด ~100,000 CPH
พร้อมความแม่นยำในการติดตั้ง ±0.04 มม.ซึ่งถือว่าสูสีคู่แข่งระดับท็อปการรองรับชิ้นส่วน: รองรับชิ้นส่วนขนาดเล็กถึง 01005 ได้ดี หัวจับความเร็วสูงออกแบบมาให้หยิบจับชิ้นส่วนได้หลากหลาย Juki ยังมีระบบป้อนชิ้นส่วน (feeder) ที่เชื่อถือได้และเปลี่ยนง่าย ทำให้ เปลี่ยนรุ่นการผลิตได้รวดเร็ว
การซ่อมบำรุง: การบำรุงรักษาทำได้สะดวก อะไหล่หาง่าย และช่างทั่วไปคุ้นเคยกับเครื่อง Juki ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีใช้งานแพร่หลาย
ระดับราคา: ปานกลาง (เครื่องใหม่หลักล้านบาท และมีตลาดเครื่องมือสองกว้างขวาง) จึงเข้าถึงได้สำหรับโรงงานขนาดกลาง
เหมาะกับงาน: การผลิตระดับกลางถึงสูง ทั้งโรงงาน OEM ที่รับผลิตหลากหลายรุ่น (เพราะปรับไลน์ง่าย) และโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องการเครื่องหลายตัวในไลน์ผลิตเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
จุดเด่น: Panasonic เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการ SMT มานานกว่า 100 ปี มีโซลูชันครบวงจรทั้งสายการผลิต SMT จุดเด่นคือเทคโนโลยีระดับ ไฮเอนด์ ที่เน้นความเร็วสูงสุดและการควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิตแบบอัจฉริยะ (Smart Factory) เครื่องรุ่นใหม่ ๆ มาพร้อมระบบซอฟต์แวร์เปิดและรองรับการเชื่อมต่อระบบไอทีเพื่อการวิเคราะห์การผลิต
ความเร็ว/ความแม่นยำ: เครื่องรุ่น NPM และ CM Series ของ Panasonic ขึ้นชื่อว่าเป็น “ตัวท็อปความเร็ว” เช่น Panasonic NPM-D3 มีความเร็วในการวางชิ้นส่วนสูงถึง 84,000 CPH และความแม่นยำ ±25 ไมครอน
ซึ่งเป็นระดับความแม่นยำสูงมากในอุตสาหกรรมการรองรับชิ้นส่วน: หัวจับความเร็วสูง 12-16 หัว สามารถวางชิ้นส่วนได้ตั้งแต่ไซส์ไมโคร 03015 (0.3×0.15 มม.) ไปจนถึงชิ้นส่วนขนาดใหญ่ 100×90 มม. สูงสุดถึง 28 มม.
พร้อมกล้องหลายมุมมอง (3D recognition) ช่วยตรวจจับความถูกต้องของการวางชิ้นในตัวการซ่อมบำรุง: ด้วยความที่เป็นเครื่องจักรซับซ้อนระดับสูง การซ่อมบำรุงต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญหรือตามสัญญาบริการจาก Panasonic อย่างไรก็ดี เครื่องถูกออกแบบให้รองรับการ เปลี่ยนหัวจับ และ ถาดป้อนชิ้นส่วน ได้อย่างรวดเร็ว (quick-change carts) ลด downtime ในสายการผลิต
ระดับราคา: สูง (เครื่องระดับไฮเอนด์ ราคาหลายล้านบาทต่อเครื่อง) เหมาะกับสายการผลิตที่มองเรื่องผลตอบแทนระยะยาวจากความเร็วและคุณภาพที่เพิ่มขึ้น
เหมาะกับงาน: โรงงานขนาดใหญ่ ที่ต้องการกำลังการผลิตสูงสุด เช่น การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปริมาณมหาศาล (สมาร์ทโฟน, ทีวี, ยานยนต์) หรือโรงงานที่ต้องการระบบผลิตอัตโนมัติเต็มรูปแบบและการติดตามคุณภาพแบบเรียลไทม์
จุดเด่น: Fuji เป็นอีกแบรนด์ญี่ปุ่นที่อยู่แถวหน้าด้านเทคโนโลยี SMT โดยเฉพาะระบบ โมดูลาร์ (modular) เช่นซีรีส์ NXT ที่สามารถเพิ่ม-ลดโมดูลเครื่องจักรตามความต้องการผลิตได้อย่างยืดหยุ่น ความโดดเด่นคือการผสมผสานความเร็วและความแม่นยำเข้ากับระบบ Smart เช่น การตรวจสอบการวางชิ้นส่วนแบบเรียลไทม์และการปรับปรุงกระบวนการอัตโนมัติ
ความเร็ว/ความแม่นยำ: เครื่อง Fuji รุ่นใหม่อย่าง Fuji NXTR มีความแม่นยำสูงถึง ±25 µm
พร้อมเทคโนโลยีหัวจับและสายพานที่ปรับปรุงการวางให้รวดเร็ว โดยหัววางหลายหัวของ Fuji สามารถทำงานพร้อมกัน ทำให้อัตราการวางชิ้นต่อพื้นที่สูงมาก (high placement per area)คุณสมบัติพิเศษ: Fuji นำเสนอฟังก์ชันล้ำสมัย เช่น ระบบตรวจเช็คตำแหน่งชิ้นส่วนระหว่างการวาง (placement checks) ภายในเครื่อง และการเปลี่ยนหัวจับด้วยปุ่มเดียว (single-action head exchange) สำหรับรุ่น NXTR เพื่ออำนวยความสะดวกในการบำรุงรักษาและลดเวลาหยุดเครื่อง
อีกทั้งการออกแบบแบบโมดูลาร์ช่วยให้โรงงานสามารถค่อย ๆ ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตทีละโมดูลได้ตามต้องการระดับราคา: สูง (เครื่อง Fuji มักมีราคาใกล้เคียงหรือสูงกว่า Panasonic/ASM) แต่ถือเป็นการลงทุนสำหรับเทคโนโลยีล้ำหน้าและ ความเสถียรสูง ในระยะยาว
เหมาะกับงาน: เหมาะสำหรับโรงงาน ผลิตปริมาณสูงมาก ที่ต้องการทั้งความเร็วและการควบคุมคุณภาพสุดละเอียด เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์ นอกจากนี้ระบบโมดูลาร์ยังดีสำหรับสายการผลิตที่ต้องการความยืดหยุ่นในการขยายกำลังการผลิตในอนาคต
จุดเด่น: ASM Assembly Systems (เดิมคือ Siemens SIPLACE) เป็นผู้นำจากเยอรมนี/สิงคโปร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความ แม่นยำและคุณภาพระดับสูง เครื่อง Siplace ของ ASM มักถูกใช้ในสายการผลิตที่ต้องการความแม่นยำสูงพิเศษหรือผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน จุดขายสำคัญคือเทคโนโลยีหัววางและระบบควบคุมที่แม่นยำมาก รวมถึงการออกแบบเครื่องที่ประหยัดพื้นที่เมื่อเทียบกับความสามารถ (high performance in compact footprint)
ความเร็ว/ความแม่นยำ: เครื่องรุ่นท็อปของ ASM อย่าง SIPLACE TX สามารถวางชิ้นส่วนได้เร็วถึง 78,000 CPHภายในพื้นที่เครื่องเพียง ~2.3 ตร.ม. และรองรับการวางชิ้นส่วนจิ๋วระดับ 0201 metric ที่ความเร็วสูงสุดโดยยังคงความแม่นยำระดับ ±22 µm (ที่ 3σ)
ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องที่แม่นยำที่สุดในตลาดการรองรับชิ้นส่วน: รองรับตั้งแต่ชิ้นส่วน 01005 ไปจนถึงชิ้นส่วนขนาดใหญ่พิเศษ (บางรุ่นรองรับชิ้นส่วนยาวถึง 200×125 มม. ด้วยหัว TwinHead สำหรับกำลังสูงพิเศษ)
มีตัวเลือกหัววางหลายแบบ (SpeedStar, MultiStar, TwinHead ฯลฯ) เพื่อปรับสมดุลความเร็วกับขนาดชิ้นส่วนที่ต้องการวางการซ่อมบำรุง: ASM มีโปรแกรมสัญญาดูแลรักษาและคาลิเบรตเครื่องให้รักษาสเปคความแม่นยำตลอดอายุการใช้งาน
เครื่องถูกออกแบบแบบโมดูลาร์เช่นกัน ทำให้ การเปลี่ยนหัวหรือเพิ่มโมดูลทำได้รวดเร็ว เพื่อปรับตัวกับงานใหม่ระดับราคา: สูงมาก (ระดับไฮเอนด์ราคาเครื่องหลายล้านบาท) เทียบเท่าหรือสูงกว่า Panasonic/Fuji เล็กน้อย แต่แลกกับ สมรรถนะสูงสุด ทั้งด้านความเร็วและความแม่นยำ เหมาะกับโรงงานที่เน้นคุณภาพเป็นพิเศษ
เหมาะกับงาน: โรงงานอุตสาหกรรม ชั้นนำขนาดใหญ่ ที่ผลิตสินค้าซับซ้อนหรือมูลค่าสูง เช่น อุปกรณ์การแพทย์, อากาศยาน, โทรคมนาคม ที่ต้องการความแม่นยำสูงมากและ downtime ต่ำที่สุด
จุดเด่น: Hanwha Precision Machinery (ชื่อเดิม Samsung Techwin) เป็นผู้ผลิตจากเกาหลีที่มีจุดแข็งด้าน ความคุ้มค่าและนวัตกรรม ผสมผสานกัน โดยนำประสบการณ์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของซัมซุงมาพัฒนาเครื่อง SMT ที่ประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่อเครื่องไม่แพงเท่าคู่แข่งญี่ปุ่น เครื่องของ Hanwha ได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในสายการผลิตที่ต้องการลดต้นทุนแต่ยังคงได้เทคโนโลยีระดับสูง
ความเร็ว: รุ่นเรือธงของ Hanwha เช่น XM520 ทำความเร็วได้ถึง 100,000 CPH (optimum) ในขณะที่รุ่นยอดนิยมอื่นอย่าง SM481 Plus ให้ความเร็ว ~40,000 CPH (พร้อมกล้อง Fly+Fix)
ความเร็วโดยรวมของเครื่อง Hanwha อยู่ในระดับใกล้เคียงกับแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ราคาย่อมเยากว่าความแม่นยำ: ความแม่นยำการวางชิ้นส่วนอยู่ที่ราว ±0.05 มม. (50 µm) ซึ่งเพียงพอสำหรับชิ้นส่วนทั่วไป รวมถึงการติดตั้งชิ้นส่วนขนาด 01005 ได้
การรองรับชิ้นส่วน: หัววางความเร็วสูงแบบแถว (gang pick) รองรับชิ้นส่วนตั้งแต่ 0201 ไปจนถึงชิ้นส่วนใหญ่ระดับคาปาซิเตอร์แท่ง, คอนเน็กเตอร์ใหญ่ ๆ ได้ รุ่นใหม่อย่าง Decan F2 เน้นความ อเนกประสงค์ สามารถใช้ได้ทั้งเป็น chip shooter และวางอุปกรณ์ขนาดใหญ่ในเครื่องเดียว
การซ่อมบำรุง: เนื่องจาก Samsung เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เองมาก่อน การออกแบบเครื่องจึงคำนึงถึงความง่ายในการดูแลรักษาและอะไหล่หาได้สะดวกในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ Hanwha มีการพัฒนา ซอฟต์แวร์ช่วยการผลิต เพื่อให้การตั้งค่าและตรวจสอบสถานะเครื่องทำได้ง่าย
ระดับราคา: ปานกลาง (ถูกกว่าแบรนด์ญี่ปุ่นและยุโรปประมาณ 20-30%) ทำให้ ROI สูง สำหรับโรงงานที่งบประมาณจำกัด
เหมาะกับงาน: โรงงานขนาดกลางถึงใหญ่ที่ต้องการทางเลือกนอกจากแบรนด์ญี่ปุ่น โดยยังได้ความเร็วระดับสูง ในนิคมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เอเชียมีการนำเครื่อง Hanwha/Samsung ไปใช้ในสายการผลิตโทรทัศน์, อุปกรณ์สมาร์ทโฮม และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไปอย่างแพร่หลาย
จุดเด่น: Universal Instruments เป็นผู้ผลิตเก่าแก่จากสหรัฐ (ก่อตั้งปี 1919) ที่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรม SMT โดยนำเสนอเครื่องที่ ทนทานและยืดหยุ่น มีไลน์ผลิตภัณฑ์ครอบคลุมตั้งแต่รุ่นราคาย่อมเยาไปจนถึงรุ่นสมรรถนะสูง เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า บริษัทนี้มีชื่อเสียงเรื่องความ อึด ของเครื่องจักรและการรองรับการอัปเกรดในอนาคต
รุ่นเครื่อง: ซีรีส์หลักของ Universal ได้แก่ Fuzion Platform ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นสูงที่ใช้เทคโนโลยีหัวและระบบป้อนล่าสุด มีรุ่นย่อยถึง 9 รุ่น เพื่อตอบโจทย์งานเฉพาะด้านต่าง ๆ
และอีกซีรีส์คือ Advantis ซึ่งเป็นเครื่องระดับกลาง/ระดับเริ่มต้นที่ราคาประหยัดแต่ยังคงประสิทธิภาพดีความเร็ว/ความแม่นยำ: เครื่อง Universal รุ่นท็อปสามารถทำความเร็วได้ในระดับ ~30,000-60,000 CPH ต่อโมดูล (ขึ้นอยู่กับจำนวนหัวและการจัดวาง) และความแม่นยำประมาณ ±0.05 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับชิ้นส่วนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มโมดูลเครื่องเป็นหลายโมดูลในสายพานเดียวกันเพื่อเพิ่ม throughput ได้
จุดเด่นอื่น: รองรับงานได้หลากหลาย ตั้งแต่การเป็น chip shooter ความเร็วสูงไปจนถึงเครื่องวางชิ้นส่วนขนาดใหญ่หรือชิ้นส่วนเฉพาะทาง ทำให้บางโรงงานใช้เครื่อง Universal เป็น “all-in-one” สำหรับสายการผลิตที่มีชนิดบอร์ดแตกต่างกันมาก
ระดับราคา: มีตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงสูง ขึ้นอยู่กับรุ่น (รุ่น Advantis ราคาหลักล้านต้น ๆ ส่วนรุ่น Fuzion ราคาหลายล้านบาท)
เหมาะกับงาน: โรงงานที่ต้องการ ความยืดหยุ่น เป็นหลัก เช่น โรงงานรับประกอบแผงวงจร (EMS) ที่ผลิตงานให้ลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากเครื่อง Universal สามารถปรับให้เหมาะกับงานได้หลากหลายรูปแบบ และยังนิยมในตลาดอเมริกาเหนือที่ต้องการเครื่องที่เสถียรและบริการหลังการขายในพื้นที่
นอกจากยี่ห้อหลักด้านบน ยังมีผู้ผลิตเครื่อง Pick and Place รายอื่นที่เน้นตลาดเฉพาะทางหรือเครื่องขนาดเล็กสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก/งานต้นแบบ ดังนี้:
จุดเด่น: Mycronic เป็นผู้ผลิตจากสวีเดนที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง High Mix/Low Volume คือรองรับการผลิตที่มีความหลากหลายของชนิดชิ้นส่วน/บอร์ดสูง แต่จำนวนต่อรุ่นไม่มาก เครื่องของ Mycronic (ชื่อเดิม Mydata) ออกแบบให้ ปรับเปลี่ยนรุ่นการผลิตได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องหยุดสายการผลิตนาน มาพร้อมซอฟต์แวร์บริหารจัดการวัสดุและคลังชิ้นส่วนอัจฉริยะที่ช่วยลดความผิดพลาดของคนในการเปลี่ยนชิ้นส่วน
ความเร็ว/ความแม่นยำ: ความเร็วสูงสุดของรุ่น MY300 อยู่ประมาณ 40,000 CPH
(ซึ่งน้อยกว่าเครื่องไฮเอนด์ของแบรนด์ใหญ่ แต่เพียงพอกับงานจำนวนไม่มาก) จุดเด่นอยู่ที่สามารถรักษาความแม่นยำในการวางชิ้นส่วนขนาดเล็กได้ดีและสม่ำเสมอการรองรับชิ้นส่วน: เครื่อง Mycronic รองรับ จำนวน Feeder มากเป็นพิเศษ — รุ่น MY300 ใส่ตลับป้อนชิ้นส่วนได้ถึง ~192 ตำแหน่ง
ทำให้สามารถโหลดชิ้นส่วนได้เป็นร้อยๆ ชนิดพร้อมกัน เหมาะกับการผลิตบอร์ดหลายแบบสลับกัน (ไม่ต้องเปลี่ยนฟีดเดอร์บ่อย) นอกจากนี้ยังรองรับชิ้นส่วนตั้งแต่ 01005 ไปจนถึงคอนเน็กเตอร์ขนาดใหญ่ได้ในเครื่องเดียวการซ่อมบำรุง: อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย ออกแบบมาสำหรับ งานโปรโตไทป์ ที่ช่างเทคนิคหรือวิศวกรสามารถควบคุมเครื่องได้โดยตรง การปรับเปลี่ยนเซ็ตอัปทำได้รวดเร็ว
ระดับราคา: ปานกลางถึงสูง (เครื่อง Mycronic ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับความเร็ว เพราะคุณจ่ายเพื่อความยืดหยุ่นและระบบอัตโนมัติของคลังชิ้นส่วน) เช่น รุ่น MY300 ราคาประมาณหลายล้านบาทต่อชุดพร้อมอุปกรณ์เสริม
เหมาะกับงาน: ศูนย์วิจัยพัฒนา (R&D), โรงงานต้นแบบ, โรงงานผลิตสินค้าหลากหลายแต่ล็อตเล็ก ที่ต้องการเปลี่ยนรุ่นบ่อย ๆ และให้ความสำคัญกับการลดเวลาหยุดเครื่องและความผิดพลาดในการเปลี่ยนชิ้นส่วน
จุดเด่น: กลุ่มเครื่องจักรประเภทนี้เป็น เครื่อง Pick and Place ขนาดเล็ก สำหรับตั้งบนโต๊ะหรือสายการผลิตขนาดเล็ก เหมาะกับผู้เริ่มต้นหรือธุรกิจขนาดเล็ก เน้นราคาถูกและใช้งานง่าย รุ่นยอดนิยมเช่น NeoDen4, NeoDen K1830 จากจีน มักมีราคาหลักหมื่นถึงแสนบาท (เช่น NeoDen4 ราคาราว $10-15k หรือ ~3-5 แสนบาท) ซึ่งถูกกว่ารุ่นใหญ่หลายเท่า
ความเร็ว/ความแม่นยำ: โดยทั่วไปความเร็วจะอยู่ในช่วง ~5,000-10,000 CPH (บางรุ่นเคลมสูงสุด ~16,000 CPH) ซึ่งต่ำกว่าเครื่องโรงงานใหญ่มาก
และความแม่นยำอยู่ที่ประมาณ ±0.1 มม. หรือมากกว่า เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูงสุด ตัวเลขเหล่านี้ถือว่ายอมรับได้สำหรับการผลิตขนาดเล็กหรือการทำต้นแบบการรองรับชิ้นส่วน: ส่วนใหญ่รองรับชิ้นส่วนถึงขนาด 0402 หรือ 0201 ได้ (ขึ้นกับรุ่นและระบบกล้อง) มีหัวจับ 2-4 หัว พร้อมกล้อง vision ในตัวสำหรับจัดศูนย์ชิ้นส่วน จำนวน feeder จำกัด (เช่น 20-30 ชนิดเทป) และอาจต้องป้อนชิ้นส่วนบางประเภทด้วยมือ (manual tray)
การซ่อมบำรุง: โครงสร้างเครื่องง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ใช้ทั่วไปสามารถบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมเบื้องต้นเองได้ เช่น เปลี่ยนหัวสูญญากาศ หรือปรับแกนมอเตอร์ โดยผู้ผลิตมักมีคู่มือและชุมชนออนไลน์ช่วยเหลือ
ระดับราคา: ต่ำมาก เมื่อเทียบกับเครื่องอุตสาหกรรม (เริ่มต้นหลักแสนบาทหรือต่ำกว่า สำหรับบางรุ่นราคาต่ำกว่า $5k ก็มี)
ค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาก็ต่ำตามไปด้วยเหมาะกับงาน: งานต้นแบบ, ธุรกิจสตาร์ทอัพ, โรงงานขนาดเล็ก ที่ผลิตบอร์ดจำนวนน้อยหรือไม่ต่อเนื่อง และผู้ที่ต้องการทำวิศวกรรมผลิตเองภายในโดยไม่ต้องลงทุนกับเครื่องใหญ่
หมายเหตุ: นอกจากที่กล่าวมา ยังมีแบรนด์เฉพาะทางอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ผลิตบางกลุ่ม เช่น Europlacer(ฝรั่งเศส/UK) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความยืดหยุ่นและจำนวน feeder สูงที่สุด – รุ่น iineo+ ของ Europlacer สามารถรองรับบอร์ดขนาดใหญ่พิเศษ (ถึง 1610×600 มม.) และมีหัววาง 2 หัว ๆ ละ 8 หรือ 12 หัวดูด ทำความเร็วได้ ~30,000 CPH
, Essemtec (สวิส) ที่เชี่ยวชาญเครื่องสำหรับงานโปรโตไทป์ความแม่นยำสูง, Mirae (เกาหลี) และ Kulicke & Soffa (Assembléon) ที่ยังมีใช้งานในบางอุตสาหกรรม เป็นต้นเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ตารางต่อไปนี้สรุปการเปรียบเทียบ แบรนด์เครื่อง Pick and Place แต่ละรายในด้านคุณสมบัติหลัก ความเร็ว/ความแม่นยำ ระดับราคา และการใช้งานที่เหมาะสม:
แบรนด์ | ความเร็วสูงสุด / ความแม่นยำ | จุดเด่นสำคัญ | ระดับราคา | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|---|
Yamaha | ~95k CPH; ±0.035 มม. | ครบวงจร, คุ้มค่า | ปานกลาง/สูง | โรงงานขนาดกลาง-ใหญ่ |
Juki | ~100k CPH; ±0.04 มม. | เชื่อถือได้, ใช้ง่าย | ปานกลาง | โรงงานขนาดกลาง-ใหญ่ |
Panasonic | ~84k CPH; ±0.025 มม. | ความเร็วสูงสุด, เทคโนโลยีล้ำ | สูง | โรงงานขนาดใหญ่ (Mass Production) |
Fuji | ~35k+ CPH/โมดูล; ±0.025 มม. | ระบบโมดูลาร์, แม่นยำสูง | สูง | โรงงานผลิตปริมาณสูงมาก |
ASM (Siplace) | ~78k CPH; ±0.022 มม. | แม่นยำสูงสุด, คุณภาพเยี่ยม | สูงมาก | โรงงานระดับไฮเอนด์ |
Hanwha (Samsung) | ~100k CPH; ±0.05 มม. | คุ้มราคา, นวัตกรรมดี | ปานกลาง | โรงงานขนาดกลาง-ใหญ่ |
Universal Instruments | ~30-60k CPH; ±0.05 มม. (ขึ้นกับรุ่น) | ทนทาน, ยืดหยุ่นสูง | ปานกลาง/สูง | โรงงานที่ต้องการความยืดหยุ่น |
Mycronic (Mydata) | ~40k CPH; ±0.05 มม. | เปลี่ยนรุ่นเร็ว, feeder เยอะ | ปานกลาง | งาน R&D/ต้นแบบ, ล็อตเล็ก |
Desktop PnP (เช่น NeoDen) | ~5-10k CPH; ±0.1 มม. | ราคาถูก, ใช้งานง่าย | ต่ำ | งานต้นแบบ, ธุรกิจเล็ก |
อ้างอิง: ข้อมูลสเปคและจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ถูกรวบรวมจากเอกสารและเว็บไซต์ผู้ผลิต รวมถึงแหล่งข้อมูลอุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ เช่น NextPCB ที่จัดอันดับเครื่อง SMT ชั้นนำ